ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มือใหม่หัดเทศน์2/2019

 ตั้งนะโม
อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา  ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมันติ ฯ
 อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย   ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา   เหมือนเกลือดีมีน้อยด้อยราคา    ยังดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล
   ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง แม้ปรินิพพานไปนานแล้ว พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า ขอโอกาสพระเถรานุเถระทุกรูปทุกท่านขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผลจงบังเกิดมีแก่ญาติโยมสาธุชนทุกท่านทุกคน ขอเจริญพร ญาติโยมสาธุชนทั้งหลาย ที่ได้มาพบเจอกันในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคาร ที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒  ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันดี วันมหากฤษณ์มหาชัย วันมหามงคล ที่คณะญาติธรรมวัดพุทธศาสน์กาญจนาราม ซานต้าบาร์บาร่า นำโดยท่านพระอาจารย์คำจันทร์ พระอาจารย์สะลัน พร้อมด้วยมหาอุบาสิกา คุณโยมสายใจและเพื่อนสนิทมิตรสหายมากหน้าหลายตา ได้ตั้งจิตตั้งใจ ชักชวนกันมารับเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ ณ วัดมหาพุทธารามแห่งนี้
ท่านทั้งหลายคงเคยได้ยินได้ฟัง บทโคลงโลกนิติ ที่ว่า ปลาร้าพันห่อด้วย  ใบคา  ใบก็เหม็นคาวปลา  คละคลุ้ง  คือคนหมู่ไปหา    คบเพื่อน พาลนา ได้แต่ร้ายร้ายฟุ้ง       เฟื่องให้เสียพงศ์ ส่วนผู้ใด ทำตัวเปรียบดั่ง ใบพ้อพันห่อหุ้ม กฤษณา หอมระรวยรสพา เพริศด้วย คือคนเสพเสน่หา นักปราชญ์ ความสุขซาบฤาม้วย ดุจไม้กลิ่นหอม ญาติโยม จากข้อความเบื้องต้นนั้นเราอาจเห็นได้ว่า"ใบไม้ที่ห่อหุ้มปลาเน่า ย่อมต้องพลอยเหม็นแปดเปื้อนไปด้วยฉันใดผู้ที่คบคนพาล ก็ย่อมต้องพลอยเสียชื่อเสียง ติดความเป็นพาลเดือนร้อนเสียหายไปด้วยฉันนั้น" ต่างกับใบพ้อที่ห่อไม้กฤษณา ใบพ้อก็ย่อมหอมไปด้วย เปรียบไม้กฤษณาซึ่งเป็นไม้เนื้อหอมกับคนดี หรือ นักปราชญ์ การคบนักปราชญ์หรือคนดีย่อมได้รับอานิสงค์คือความสุขไปด้วย ว่ากันว่า การเลือกคบเพื่อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ต่างกันเลยกับคำพูดที่เราท่านเคยได้ยินจนชินหูที่ว่า เลือกผัวผิดคิดจนตัวตาย จากเรื่องมงคล๓๘ประการแม้แต่พระพุทธองค์ก็ยังคงให้ความสำคัญในการเลือกคบเพื่อนนั้นไว้เป็นอันดับต้นๆกันเลยทีเดียว ญาติโยมอาจเคยได้ยินที่ใครเขาว่ากันว่า ตัวเรานั้นคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุด ลองมองดู 5 คนในชีวิตที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดในแต่ละวันดูซิ เราจะรู้ได้ว่าเราได้รับอิทธิพลมาจากพวกเขาจริงๆ ไม่มากก็น้อย ถ้าเราคลุกคลีอยู่กับใคร ในไม่ช้าเราก็จะได้เป็นตนแบบนั้น
ถ้าเราอยู่กับ “คนใจกว้าง” “สังคมของเราก็จะกว้างมากยิ่งขึ้น”ถ้าสมาคมกับ “นักปราชญ์” “สติปัญญาเราจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น”
ถ้าอยู่ร่วมกับ “คนชอบศึกษา” “ความรู้เราก็จะมีมากยิ่งขึ้น”ถ้าเราคบหากับ “คนบุญ” “จิตเมตตาจะมีมากยิ่งขึ้น”
ถ้าอยู่กับ “คนกล้าหาญ” เราจะมีความ “แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”ถ้าอยู่กับ “คนมองโลกในแง่ดี” เราจะ “มีความสุขมากยิ่งขึ้น”
ถ้าอยู่กับ “คนมั่งมี” เราจะถูกจุดประกายให้ “สร้างฐานะดียิ่งขึ้น”ถ้าอยู่กับ “คนที่มีความฝัน” เราจะมี “ความมุ่งมั่น” และ “ไม่เลิกลาไปโดยง่าย” ถ้าเราอยู่กับ “คนที่มีความรับผิดชอบในภาระหน้าที่” เราจะ “ถนอมวันเวลามากยิ่งขึ้น แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะผลักดันให้เราดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น เพราะบางคนก็คอยขัดขวางการเดินทางตามฝันของเรา หรือ คอยฉุดรั้งเราไว้จากความสำเร็จ โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเลือกคบคน หรือ เลือกสังคมที่เราจะเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ ซึ่งสามารถสังเกตได้ เช่น สังคมของคนเกเร จะพูดคุยกันแต่ในเรื่องที่สร้างความเดือดร้อน สังคมของคนทั่วไป จะพูดคุยกันในเรื่องชาวบ้าน และ การนินทา สังคมของพ่อค้า จะพูดคุยกันในเรื่อง ทำเลค้าขาย และ โอกาสในการทำกำไร สังคมของนักลงทุน จะพูดคุยกันในเรื่อง ธุรกิจ และ ไอเดียใหม่ๆ สังคมของนักบุญ จะพูดคุยกันในเรื่อง ความสงบสุข การปล่อยวาง และ การสละอุทิศเราต้องเลือกเอาเอง เพราะเราสามารถนำพาตัวเองไปในสังคมต่างๆได้ อยากจะประสบความสำเร็จ ก็นำพาตัวเองเข้าไปอยู่กับคนที่ประสบความสำเร็จ อยากล้มเหลว ก็นำพาตัวเองไปอยู่รวมกับคนที่ล้มเหลว
ในวันนี้ อาตมาภาพก็ขอฝากข้อคิดคติธรรมเล็กๆน้อย เพื่อเป็นเครื่องปฏิการะคุณตอบแทน แก่คณะญาติธรรม วัดพุทธศาสน์กาญจนาราม เมืองซานต้าบาร์บาร่า ซึ่งนำโดยท่านพระอาจารย์คำจันทร์ พระอาจารย์สะลัน พร้อมด้วยมหาอุบาสิกา คุณโยมสายใจและญาติโยมทุกๆท่าน อีกทั้งเพื่อเป็นเครื่องประคับประครองฉลองศรัทธา ประดับปัญญาบารมี เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุขตามอัตตภาพแห่งตนๆว่า
อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา    ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ
แปลความ ว่า อย่าคบมิตรที่พาลสันดานชั่ว  จะพาตัวเน่าดิบจนฉิบหาย
แม้ความคิดชั่วช้าอย่ากล้ำกราย  เป็นมิตรร้ายภายใน ทุกข์ใจครัน
ควรคบหาบัณฑิตเป็นมิตรไว้   จะช่วยให้พ้นทุกข์สบสุขสันต์
ความคิดดีเลิศล้ำยิ่งสำคัญ    ควรคบกันอย่าเขวทุกเวลา
ควรบูชาไตรรัตน์ขัตติเยศร์  ผู้วิเศษก่อเกื้อเหนือเกศา
พ่อแม่ ครูอาจารย์ เจดีย์ที่สักการ์   ด้วยบุปผาปฏิบัติสวัสดิ์การ
อาตมาภาพขอ อนุโมทนาขอบคุณ ในน้ำจิตน้ำใจ ของคณะท่านเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ทุกๆท่านที่ได้อนุเคราะห์ เกื้อหนุน อุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์ วัดมหาพุทธารามนี้ตลอดเรื่อยมา ขอให้ทุกท่านทราบว่า อันความดี ทำไว้ กับใครนั้น ไม่มีวัน ลับหาย ในภายหน้า กายอาจเลือน ลับหาย จากสายตา ดีไม่ลา ลับหาย จากสายใจ
เทสนา วสาเน ในท้ายที่สุดแห่งพระธรรมเทศนา ด้วยอานิสงส์แห่งบุญกุศลที่ทุกท่านบำเพ็ญแล้วนี้ อาตมาภาพขออ้างคุณแห่งพระรัตนตรัย เพื่ออำนวยอวยชัยแก่ท่านทั้งหลาย ว่า ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวตา ขอสรรพมงคลจงมีแก่ท่าน ขอเหล่าเทวดาทั้งปวงจงรักษาท่าน สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวัน ตุ เต ด้วยอานุภาพ แห่พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ขอความสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญ   เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระประจำวันเกิด ภาษาอังกฤษ english version

วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

การศึกษาวิเคราะห์วรรณกรรมเรื่องคู่มือมนุษย์ของพุทธทาสภิกขุ THE ANLYTICAL STUDY OF THE VENERABLE BUDDHADASA’S THE LITERARY WORK OF HANDBOOK FOR MANKIND BUDDHADASA BHIKKHU โดย พระประสิทธิ์ ปภาธโร ๑.๑ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทย มีที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในสมัยสุโขทัย เมื่อครั้งพ่อขุนรามมหาราชโปรดให้จารึกบนแผ่นศิลา ซึ่งเรียกกันว่า “ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง” ซึ่งมีเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับศาสนธรรม ศาสนประวัติ ศาสนพิธี ศาสนวัตถุแทรกอยู่ และต่อจากนั้นมาก็มีวรรณกรรมทางศาสนาติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยอยุธยา วรรณกรรมที่สำคัญในสมัยอยุธยาตอนต้นส่วนใหญ่มีเรื่องเกี่ยวกับศาสนพิธีกรรมและพระมหากษัตริย์ จึงมีเนื้อเรื่องคล้ายวรรณกรรมสุโขทัย ส่วนลักษณะการแต่งแตกต่างกับวรรณกรรมสุโขทัยเป็นอย่างมาก วรรณกรรมในสมัยนี้แต่งด้วยร้อยกรองทั้งสิ้นคำประพันธ์ที่ใช้เกือบทุกชนิด คือ โคลง ร่าย กาพย์ และฉันท์ ขาดแต่กลอนส่วนใหญ่แต่งเป็นลิลิต คำบาลี สันสกฤตและเขมรเข้ามาปะปนในคำไทยมากขึ้นวรรณกรรมที่สำคัญในสมัยอยุธยาตอนต้น มีเรื่อ

แปลหนังสือสุทธิ english version

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์ต่อหลายๆท่าน