เทศน์
ตั้งนะโม
สีเลนะ สุคติงยันฺติ สีเลนะโภคสัมปทา สีเลนะนิพพุติงยันฺติ ตัสสฺมา สีลํ วิโส ธเยติ.
ขอน้อบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ขอโอกาสพระเถรานุเถระทุกรูปทุก ท่าน ขอเจริญพร เจริญสุข สวัสดี ญาติโยมสาธุชนคนใจบุญท่านทั้งหลาย ที่มาประชุมชุมนุมพบเจอกันในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคาร ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ วันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นวันดีที่คณะญาติธรรมนำโดยโยมป้าแพท โยมทิพย์ และโยมพรเนาะ พร้อมด้วยลูกๆหลานๆอีกทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหายมากหน้าหลายตา ตั้งจิตตั้งใจกันมาเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ ณ วัดมหาพุทธารามแห่งนี้ ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวซะหน่อย อาตมาภาพนามว่า พระมหาถาวร คนจังวัดอุบลราชธานีเด้อ ส่วนชื่อเล่นก็มีอยู่หลากหลายชื่อแล้วแต่สถานที่ที่อาตมาได้เคยไปอยู่อาศัย อาทิเช่น ที่ญี่ป่นเรียกว่าฟูจิโอะคุง ที่ฝรั่งเศสเรียกว่าอิ๊กคิวซัง อยู่ที่ลาสเวกัสเรียกว่า ท่านจูเนี่ย ส่วนที่นี่ก็มีอยู่หลายชื่อ เรียกว่า องค์สองกะได้ ใช่ไหมโยมแม่นิอร หรือจะเรียกว่าองค์ยิ้มก็ว่ากันไป ใช่ไหมโยมพร โยมป้าแพท จริงๆแล้วอาตมาภาพไปอ่านเจอมาจากที่ไหนเมื่อไหร่ไม่ทราบแน่ชัด ว่าการยิ้มเป็นการให้ไมตรีจิตมิตภาพที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย อีกทั้งเมื่อเราอยู่ในวงสนทนาคิดอะไรไม่ออกบอกอะไรไม่ถูกให้ยิ้มไว้ก่อน เพราะแค่เพรียงรอยยิ้มก็อาจช่วยแก้ไขสถานะการณ์ได้ ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ขนาดอาตมาจะบวชแค่สิบห้าวัน ปัจจุบันนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ ๑๙ สะแล้ว จะมาอยู่อเมริกาก็เช่นกันญาติโยม แรกๆคนโน้น คนนี้ก็ถามว่าจะมาอยู่นานแค่ไหน ตัวอาตมาก็ตอบไปว่าหกเดือนตามอายุวีซ่าเนาะ นี่ก็ผ่านมาแล้ว ๑ปี กับอีก ๓เดือนแล้ว ก็เป็นเสียอย่างนี้แหละญาติโยมชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอน มันไม่เที่ยง เจือปนไปด้วยความทุกข์ ส่วนความสุขนั้นก็ตั้งอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะมีอาการสามอย่างนี้สลับสับเปลี่นวนเวียนไปมา ได้แก่ การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ และการดับไป สามสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน สามัญ คือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป พิจารณาได้จากร่างกายสังขารเราเนี้ยแหละเนาะเมื่อเกิดขึ้นมาเป็นตัวเป็นตนเรียกว่าเป็นคนแล้ว มันก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากเด็กๆตัวเล็กๆวิ่งเล่นสนุกสนานในวันนั้น ปัจจุปันก็จะสามสิบเสียแล้วโยม ต่อไปก็ได้แต่รอและก็รอ ถึงไม่รอมันก็จะต้องมาแน่ๆเนาะเจ้าความแก่ เมื่อความแก่มามันก็มาพร้อมกับ อ็อฟชั่นต่างๆมากมายใช่ไหมโยมป้าแพท ไหนจะปวดแขน ปวดขา โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน เบาขม ก็จะค่อยๆทะยอยมา ดังนั้นญาติโยมที่ยังหนุ่มยังสาวก็จงอย่าได้ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง ดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย จิตใจตัวเองบ้างตามเหมาะสม ว่างๆหากมีเวลาก็เข้าวัดทำบุญ ตามหลักคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามระดับตามความยากง่าย มีการให้ทาน การรักษาศีลคือการดูแลรักษากายและวาจาของเราไม่ให้ไปทำให้ผู้อื่นเดือดเนื้อร้อนใจและการบำเพ็ญเพียรภาวนาทำจิตใจให้เบิกบาน สงบเย็น เพราะว่าชีวิตคนเรานั้นมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เหมือนบทพระราชนิพนธ์ในเสด็จพ่อ ร.๕ ที่ว่า เห็นหน้ากันเมื่อเช้า สายตาย สายสุขอยู่สบาย บ่ายม้วย บ่ายยังรื่นเริงกาย เย็นดับชีพนา เย็นอยู่หยอกลูกด้วย ค่ำม้วยดับสูญ
ในวันนี้ อาตมาภาพก็ขอฟากข้อคิดคติธรรมเล็กๆน้อย แก่ญาติโยมท่านทั้งหลายเพื่อเป็นการประคับประครองฉลองศรัทธา ประดับปัญญาบารมี เพื่อทำชีวิตนี้ให้มีความสุขตามอัตตภาพแห่งตนๆว่า
สีเลนะ สุคติงยันฺติ สีเลนะโภคสัมปทา สีเลนะนิพพุติงยันฺติ ตัสสฺมา สีลํ วิโส ธเย.
ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์ ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน เพราะเหตุนั้นพึงชำระศีลให้หมดจด
แต่ว่า ศีลนั้นไม่ได้อยู่ที่พระ ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัด เงินไม่ได้อยู่ที่เศรษฐี
ศีลนั้นอยู่ที่กายที่วาจาของเรา ธรรมะก็อยู่ที่สติ
ส่วนเงินทองนั้นอยู่ในทุกๆที่ที่มีความขยัน แม่นเด้เนาะแม่ออกวันไชย
เทสนา วสาเน ในท้ายที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมาภาพขออ้างคุณแห่งพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน พร้อมด้วยพระสงฆ์ จงมารวมกันเป็นตะบะ เป็นเดชะ เป็นพละวะปัจจัยอำนวยอวยชัย ให้คณะท่านเจ้าภาพและลูกๆหลานๆ พร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหาย ญาติโยมทุกๆท่าน จงมีสุขภาพร่างกาย จิตใจที่แข็งแรง อายุมั่นขวัญยื่นปราศจากทุกข์ โศก โรคภัย อันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทุกท่านทุกคนเทอญ
เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้
ตั้งนะโม
สีเลนะ สุคติงยันฺติ สีเลนะโภคสัมปทา สีเลนะนิพพุติงยันฺติ ตัสสฺมา สีลํ วิโส ธเยติ.
ขอน้อบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ขอโอกาสพระเถรานุเถระทุกรูปทุก ท่าน ขอเจริญพร เจริญสุข สวัสดี ญาติโยมสาธุชนคนใจบุญท่านทั้งหลาย ที่มาประชุมชุมนุมพบเจอกันในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคาร ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ วันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นวันดีที่คณะญาติธรรมนำโดยโยมป้าแพท โยมทิพย์ และโยมพรเนาะ พร้อมด้วยลูกๆหลานๆอีกทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหายมากหน้าหลายตา ตั้งจิตตั้งใจกันมาเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ ณ วัดมหาพุทธารามแห่งนี้ ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวซะหน่อย อาตมาภาพนามว่า พระมหาถาวร คนจังวัดอุบลราชธานีเด้อ ส่วนชื่อเล่นก็มีอยู่หลากหลายชื่อแล้วแต่สถานที่ที่อาตมาได้เคยไปอยู่อาศัย อาทิเช่น ที่ญี่ป่นเรียกว่าฟูจิโอะคุง ที่ฝรั่งเศสเรียกว่าอิ๊กคิวซัง อยู่ที่ลาสเวกัสเรียกว่า ท่านจูเนี่ย ส่วนที่นี่ก็มีอยู่หลายชื่อ เรียกว่า องค์สองกะได้ ใช่ไหมโยมแม่นิอร หรือจะเรียกว่าองค์ยิ้มก็ว่ากันไป ใช่ไหมโยมพร โยมป้าแพท จริงๆแล้วอาตมาภาพไปอ่านเจอมาจากที่ไหนเมื่อไหร่ไม่ทราบแน่ชัด ว่าการยิ้มเป็นการให้ไมตรีจิตมิตภาพที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย อีกทั้งเมื่อเราอยู่ในวงสนทนาคิดอะไรไม่ออกบอกอะไรไม่ถูกให้ยิ้มไว้ก่อน เพราะแค่เพรียงรอยยิ้มก็อาจช่วยแก้ไขสถานะการณ์ได้ ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ขนาดอาตมาจะบวชแค่สิบห้าวัน ปัจจุบันนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ ๑๙ สะแล้ว จะมาอยู่อเมริกาก็เช่นกันญาติโยม แรกๆคนโน้น คนนี้ก็ถามว่าจะมาอยู่นานแค่ไหน ตัวอาตมาก็ตอบไปว่าหกเดือนตามอายุวีซ่าเนาะ นี่ก็ผ่านมาแล้ว ๑ปี กับอีก ๓เดือนแล้ว ก็เป็นเสียอย่างนี้แหละญาติโยมชีวิตคนเรามันไม่แน่ไม่นอน มันไม่เที่ยง เจือปนไปด้วยความทุกข์ ส่วนความสุขนั้นก็ตั้งอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะมีอาการสามอย่างนี้สลับสับเปลี่นวนเวียนไปมา ได้แก่ การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ และการดับไป สามสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน สามัญ คือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป พิจารณาได้จากร่างกายสังขารเราเนี้ยแหละเนาะเมื่อเกิดขึ้นมาเป็นตัวเป็นตนเรียกว่าเป็นคนแล้ว มันก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากเด็กๆตัวเล็กๆวิ่งเล่นสนุกสนานในวันนั้น ปัจจุปันก็จะสามสิบเสียแล้วโยม ต่อไปก็ได้แต่รอและก็รอ ถึงไม่รอมันก็จะต้องมาแน่ๆเนาะเจ้าความแก่ เมื่อความแก่มามันก็มาพร้อมกับ อ็อฟชั่นต่างๆมากมายใช่ไหมโยมป้าแพท ไหนจะปวดแขน ปวดขา โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน เบาขม ก็จะค่อยๆทะยอยมา ดังนั้นญาติโยมที่ยังหนุ่มยังสาวก็จงอย่าได้ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง ดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย จิตใจตัวเองบ้างตามเหมาะสม ว่างๆหากมีเวลาก็เข้าวัดทำบุญ ตามหลักคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามระดับตามความยากง่าย มีการให้ทาน การรักษาศีลคือการดูแลรักษากายและวาจาของเราไม่ให้ไปทำให้ผู้อื่นเดือดเนื้อร้อนใจและการบำเพ็ญเพียรภาวนาทำจิตใจให้เบิกบาน สงบเย็น เพราะว่าชีวิตคนเรานั้นมันก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เหมือนบทพระราชนิพนธ์ในเสด็จพ่อ ร.๕ ที่ว่า เห็นหน้ากันเมื่อเช้า สายตาย สายสุขอยู่สบาย บ่ายม้วย บ่ายยังรื่นเริงกาย เย็นดับชีพนา เย็นอยู่หยอกลูกด้วย ค่ำม้วยดับสูญ
ในวันนี้ อาตมาภาพก็ขอฟากข้อคิดคติธรรมเล็กๆน้อย แก่ญาติโยมท่านทั้งหลายเพื่อเป็นการประคับประครองฉลองศรัทธา ประดับปัญญาบารมี เพื่อทำชีวิตนี้ให้มีความสุขตามอัตตภาพแห่งตนๆว่า
สีเลนะ สุคติงยันฺติ สีเลนะโภคสัมปทา สีเลนะนิพพุติงยันฺติ ตัสสฺมา สีลํ วิโส ธเย.
ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์ ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน เพราะเหตุนั้นพึงชำระศีลให้หมดจด
แต่ว่า ศีลนั้นไม่ได้อยู่ที่พระ ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัด เงินไม่ได้อยู่ที่เศรษฐี
ศีลนั้นอยู่ที่กายที่วาจาของเรา ธรรมะก็อยู่ที่สติ
ส่วนเงินทองนั้นอยู่ในทุกๆที่ที่มีความขยัน แม่นเด้เนาะแม่ออกวันไชย
เทสนา วสาเน ในท้ายที่สุดแห่งพระธรรมเทศนานี้ อาตมาภาพขออ้างคุณแห่งพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอน พร้อมด้วยพระสงฆ์ จงมารวมกันเป็นตะบะ เป็นเดชะ เป็นพละวะปัจจัยอำนวยอวยชัย ให้คณะท่านเจ้าภาพและลูกๆหลานๆ พร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหาย ญาติโยมทุกๆท่าน จงมีสุขภาพร่างกาย จิตใจที่แข็งแรง อายุมั่นขวัญยื่นปราศจากทุกข์ โศก โรคภัย อันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทุกท่านทุกคนเทอญ
เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น